โดย : วารีภูย์
ลองนึกภาพตัวเองยืนอยู่หน้ากระจก สิ่งที่คุณเห็นไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังรวมถึงร่องรอยของประสบการณ์ เรื่องราว และการตัดสินใจที่หล่อหลอมให้คุณเป็นคุณในวันนี้ เช่นเดียวกัน หนี้สินที่คุณแบกรับอยู่ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขในบัญชีที่ทำให้ปวดหัว แต่มันคือกระจกเงาที่สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่คุณให้ความสำคัญ หรือ “คุณค่า” ในชีวิตอย่างแท้จริง
เคยไหม… ที่มองยอดหนี้บัตรเครดิตที่พุ่งสูงขึ้น หนี้ผ่อนรถที่ดูเหมือนจะไม่มีวันจบ หรือหนี้สินอื่นๆ ที่ถาโถมเข้ามาจนรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ? ในโมงยามเหล่านั้น บางทีเราก็อดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า ทำไมเราถึงมาถึงจุดนี้ได้? อะไรคือสิ่งที่นำพาเรามาสู่สถานการณ์ทางการเงินเช่นนี้? บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะมาตำหนิ ตอกย้ำความรู้สึกผิด หรือชี้ถูกชี้ผิด แต่จะชวนคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านมาหยุดพักสักครู่ แล้วลองส่องกระจกใจ มองลึกลงไปถึง “คุณค่า” ที่ซ่อนเร้นอยู่ในชีวิตของเรา แล้วพิจารณาดูว่า หนี้สินที่เรากำลังแบกรับอยู่นั้น กำลังสะท้อนภาพอะไรออกมากันแน่
เราจะมาดูกันว่า เส้นทางแห่งหนี้สินของเรานั้น สอดคล้องกับสิ่งที่เราเชื่อมั่นและให้ความสำคัญจริงๆ หรือไม่ และที่สำคัญที่สุด การเข้าใจ “คุณค่า” ที่แท้จริงในชีวิต จะนำพาเราไปสู่การตัดสินใจทางการเงินที่ชาญฉลาด และสร้างความสุขที่ยั่งยืนได้อย่างไร
หนี้สินหลากหลาย สะท้อน “คุณค่า” ที่แตกต่าง
ชีวิตของคนเรานั้นแสนจะหลากหลาย เช่นเดียวกับประเภทและปริมาณของหนี้สินที่แต่ละคนแบกรับไว้ ลองมาฟังเรื่องราวของผู้คนธรรมดา ที่หนี้สินของพวกเขากำลังเล่าถึง “คุณค่า” ที่แตกต่างกันในชีวิต ลองดูตัวอย่างจากนิทานเหล่านี้
เรื่องที่ 1: “นักเดินทางผู้ไม่เคยหยุดนิ่ง”
พบกับ “ธนากร” หนุ่มวัย 30 ต้นๆ ที่ชีวิตดูเหมือนจะโลดโผนและน่าอิจฉา เขาโพสต์ภาพการเดินทางไปเยือนเมืองสวยๆ ทั่วโลกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขาในเนปาล ดำน้ำในบาหลี หรือเดินเล่นในเมืองเก่าของยุโรป แต่เบื้องหลังภาพเหล่านั้น ธนากรกลับมีหนี้บัตรเครดิตที่สูงจนน่าตกใจ เมื่อสอบถามถึงสาเหตุ เขายอมรับว่าเงินส่วนใหญ่หมดไปกับการเดินทางและการหาประสบการณ์ใหม่ๆ “ผมเชื่อว่าชีวิตคือการเรียนรู้และการเติบโตครับ การได้ไปเห็นโลกกว้าง ได้สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่าง มันเติมเต็มชีวิตผมมากกว่าการเก็บเงินไว้เฉยๆ” ธนากรกล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย หนี้สินของเขาอาจดูน่ากังวลในสายตาคนทั่วไป แต่เมื่อมองลึกลงไป จะเห็น “คุณค่า” ของการแสวงหาความรู้ การเปิดโลกทัศน์ และการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ซ่อนอยู่
เรื่องที่ 2: “เสาหลักของครอบครัว”
“สิริพร” หญิงสาววัย 35 ปี ทำงานหนักทั้งวันเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เธอมีหนี้สินก้อนใหญ่จากการผ่อนบ้านให้น้องชายได้มีที่อยู่อาศัย และยังต้องดูแลค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ที่เกษียณอายุแล้ว แม้ภาระจะหนักอึ้งจนบางครั้งเธอแทบจะถอดใจ แต่สิริพรก็ยังคงกัดฟันสู้ต่อไป “สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตฉันคือครอบครัวค่ะ การได้เห็นพวกเขามีความสุขและสบาย ฉันก็มีความสุขแล้ว หนี้สินมันก็แค่เรื่องชั่วคราว ถ้าเราตั้งใจจริง ยังไงก็ต้องผ่านไปได้” สิริพรพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “คุณค่า” ของความกตัญญู ความเสียสละ และความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อครอบครัว คือสิ่งที่ขับเคลื่อนให้เธอก้าวเดินต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
เรื่องที่ 3: “นักลงทุนรุ่นใหม่ไฟแรง”
“ณัฐพล” หนุ่มออฟฟิศวัย 28 ปี เป็นอีกคนที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เขาศึกษาเรื่องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง และตัดสินใจกู้เงินบางส่วนมาลงทุน โดยหวังว่าจะสร้างความมั่งคั่งได้อย่างรวดเร็ว แต่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีนั้นผันผวนอย่างมาก ทำให้เขามีหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว “ผมรู้ว่ามันมีความเสี่ยงสูง แต่ผมก็เชื่อมั่นในศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ และผมก็อยากจะสร้างฐานะให้มั่นคงตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น” ณัฐพลอธิบายถึงเหตุผลในการตัดสินใจลงทุน “คุณค่า” ของความทะเยอทะยาน การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และการแสวงหาความก้าวหน้าในชีวิต คือสิ่งที่ผลักดันให้เขากล้าที่จะเผชิญกับความเสี่ยง
เรื่องที่ 4: “ผู้แสวงหาความสุขจากวัตถุ”
ในทางตรงกันข้าม “ลดา” สาววัย 25 ปี มีหนี้บัตรเครดิตจำนวนมากที่เกิดจากการซื้อสินค้าแบรนด์เนม เสื้อผ้าสวยๆ กระเป๋าหรูๆ และเครื่องสำอางราคาแพง เธอชอบที่จะตามเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ และรู้สึกว่าการได้ครอบครองสิ่งเหล่านี้ทำให้เธอมีความสุขและมั่นใจ “ฉันก็แค่อยากดูดี อยากให้คนอื่นมองว่าเรามีสไตล์ แล้วมันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นจริงๆ นะ” ลดาตอบด้วยท่าทีที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรนัก “คุณค่า” ที่ขับเคลื่อนการกระทำของเธอ อาจเป็นความต้องการที่จะได้รับการยอมรับจากสังคม ความปรารถนาที่จะรู้สึกพิเศษ หรือเพียงแค่ความสุขชั่วครู่ชั่วยามจากการได้ครอบครองวัตถุเหล่านั้น
เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่สะท้อนให้เห็นว่า หนี้สินของแต่ละคนนั้นมีที่มาและเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป และมักจะเชื่อมโยงกับสิ่งที่พวกเขาให้ “คุณค่า” ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การศึกษา ครอบครัว ความก้าวหน้า หรือแม้แต่ความสุขทางวัตถุ แล้วคุณผู้อ่านล่ะ? หนี้สินของคุณกำลังบอกเล่าเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่คุณให้ “คุณค่า” มากที่สุดในชีวิต?
สำรวจ “คุณค่า” ที่แท้จริง: เข็มทิศนำทางสู่การตัดสินใจทางการเงิน
เพื่อให้เราเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างหนี้สินกับ “คุณค่า” ในชีวิตได้ดียิ่งขึ้น ลองใช้เวลาสักครู่เพื่อสำรวจตัวเองอย่างตรงไปตรงมา และตอบคำถามเหล่านี้จากใจจริง:
อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ?
– ลองเขียนออกมาเป็นรายการ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว สุขภาพ การงาน ความสัมพันธ์ ความสุขส่วนตัว การเรียนรู้ การช่วยเหลือผู้อื่น หรืออะไรก็ตามที่คุณรู้สึกว่าขาดไม่ได้ในชีวิต
คุณใช้เวลาและทรัพยากรส่วนใหญ่ไปกับอะไร?
– พิจารณาดูว่าในแต่ละวัน หรือในแต่ละเดือน คุณใช้เงิน เวลา และพลังงานไปกับสิ่งใดมากที่สุด สิ่งเหล่านั้นสอดคล้องกับ “คุณค่า” ที่คุณบอกว่าเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตหรือไม่? หรือบางทีคุณอาจพบว่า คุณกำลังทุ่มเทให้กับบางสิ่งที่ไม่ใช่ “คุณค่า” ที่แท้จริงของคุณ
หนี้สินของคุณเกิดขึ้นจากความพยายามที่จะเติมเต็ม “คุณค่า” เหล่านั้น หรือเป็นเพียงผลจากการตัดสินใจที่ไม่ได้ไตร่ตรอง?
– ลองวิเคราะห์ดูว่า หนี้สินแต่ละก้อนของคุณมีที่มาอย่างไร มันเกี่ยวข้องกับ “คุณค่า” ที่คุณให้ความสำคัญหรือไม่ หรือมันเป็นผลจากการตัดสินใจที่ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังเพียงพอ?
ในทางปรัชญาแล้ว คำว่า “คุณค่า” นั้นมีความหมายที่ลึกซึ้งและหลากหลาย แต่โดยพื้นฐานแล้ว มันหมายถึงสิ่งที่เราให้ความสำคัญ สิ่งที่เราเห็นว่ามีค่าและมีความหมายต่อชีวิตของเรา ในวิถีพุทธ เราได้รับการสอนให้พิจารณาถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งแตกต่างจากความสุขที่เกิดจากการเสพสุขทางวัตถุเพียงอย่างเดียว ความสุขที่ยั่งยืนนั้น มักจะเกิดขึ้นจากความสงบภายในจิตใจ การรู้จักพอใจในสิ่งที่ตนมี และการดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับหลักธรรมคำสอน เช่น การมีเมตตา การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น การพิจารณา “คุณค่า” ที่แท้จริงตามแนวทางของพุทธศาสนา จึงเป็นการหันกลับมามองภายในจิตใจของเรา เพื่อค้นหาสิ่งที่นำมาซึ่งความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน
นอกจากนี้ แนวคิดของ ESG (Environmental, Social, Governance) ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพิจารณา “คุณค่า” ในชีวิตของเราในยุคปัจจุบัน การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างยั่งยืน ไม่ได้หมายถึงแค่ความสุขส่วนตัว หรือความสุขในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ด้วย หนี้สินที่เกิดขึ้นจากการบริโภคสินค้าและบริการที่ไม่ยั่งยืน หรือการสนับสนุนธุรกิจที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อโลก ก็อาจเป็นสัญญาณว่า “คุณค่า” ของเรายังไม่ได้สอดคล้องกับการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนในระยะยาว การพิจารณาถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ในการตัดสินใจทางการเงินของเรา จึงเป็นอีกมิติหนึ่งของการสำรวจ “คุณค่า” ที่แท้จริง
บริหารหนี้สินอย่างเข้าใจ: เมื่อ “คุณค่า” นำทางการเงิน
เมื่อเราเริ่มตระหนักถึง “คุณค่า” ที่แท้จริงในชีวิตของเราแล้ว มุมมองต่อหนี้สินก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยรู้สึกว่าเป็นเพียงภาระที่หนักอึ้งและน่าหงุดหงิด มันจะกลายเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมีสติและสอดคล้องกับเป้าหมายชีวิตที่แท้จริงมากขึ้น
จัดลำดับความสำคัญของหนี้สินตาม “คุณค่า”
ลองพิจารณาดูว่า หนี้สินก้อนใดของคุณที่เชื่อมโยงกับ “คุณค่า” ที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ เช่น หนี้เพื่อการศึกษาที่นำไปสู่การพัฒนาตนเอง หรือหนี้เพื่อการรักษาพยาบาลของคนที่คุณรัก ในขณะเดียวกัน ก็พิจารณาว่าหนี้สินก้อนใดที่ไม่สอดคล้องกับ “คุณค่า” เหล่านั้น หรืออาจกำลังขัดขวางความสุขที่แท้จริงของคุณในระยะยาว ลองจัดลำดับความสำคัญในการจัดการหนี้สิน โดยเริ่มจากหนี้สินที่ส่งผลกระทบต่อ “คุณค่า” ที่สำคัญที่สุดของคุณก่อน
วางแผนการชำระหนี้อย่างมีเป้าหมาย
เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการจัดการหนี้สิน ซึ่งเชื่อมโยงกับ “คุณค่า” ในชีวิตของคุณ การวางแผนการชำระหนี้ก็จะมีความหมายและมีแรงจูงใจมากขึ้น การพิจารณาถึงทางเลือกต่างๆ เช่น การรวมหนี้ การเจรจากับเจ้าหนี้ การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น อาจเป็นทางออกที่คุณพิจารณาอย่างจริงจังมากขึ้น เมื่อ “คุณค่า” ของอิสระทางการเงินและการมีชีวิตที่ไร้กังวลมีความสำคัญต่อคุณ
สร้างสมดุลระหว่างความสุขปัจจุบันและความสุขในอนาคต
การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ได้หมายถึงการตัดขาดจากทุกสิ่ง หรือการปฏิเสธความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในปัจจุบัน แต่คือการสร้างสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความต้องการในปัจจุบัน และ “คุณค่า” ของความมั่นคงและความสุขในระยะยาว การรู้จักให้รางวัลตัวเองบ้างในขอบเขตที่เหมาะสม และการวางแผนสำหรับการออมและการลงทุนเพื่ออนาคต ก็เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพทางการเงินและสุขภาพจิตที่ดี
ตัดสินใจทางการเงินโดยคำนึงถึงผลกระทบระยะยาว
การตัดสินใจทางการเงินในวันนี้ จะส่งผลต่อชีวิตในอนาคตของคุณอย่างไร? การคำนึงถึงเป้าหมายระยะยาวที่สอดคล้องกับ “คุณค่า” ของความมั่นคงทางการเงิน อิสรภาพในการใช้ชีวิต และความสุขที่ยั่งยืน จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและมีสติมากขึ้น การหลีกเลี่ยงการสร้างหนี้สินที่ไม่จำเป็น และการลงทุนอย่างชาญฉลาด จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างอนาคตทางการเงินที่คุณต้องการ
บทสรุป:
หนี้สินที่เรามีนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขที่น่าเบื่อในบัญชีธนาคาร แต่เป็นเหมือนกระจกใสที่สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เราให้ “คุณค่า” และความสำคัญในชีวิต การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึง “คุณค่า” ที่แท้จริงของเรา และการพยายามทำให้การตัดสินใจทางการเงินของเราสอดคล้องกับ “คุณค่า” เหล่านั้น คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดบนเส้นทางสู่การมีชีวิตที่มีความสุขอย่างยั่งยืน ลองใช้เวลาสักครู่เพื่อสำรวจและทบทวนตัวเองอย่างตรงไปตรงมา แล้วคุณอาจจะค้นพบว่า หนทางสู่การปลดหนี้ที่แท้จริง และการสร้างอิสรภาพทางการเงินนั้น แท้จริงแล้วเริ่มต้นจากการปลดล็อก “คุณค่า” ที่ซ่อนอยู่ในใจของคุณเอง
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- หนี้สินกับสุขภาพจิต: Anxious Minds. Debt and mental health. https://www.anxiousminds.co.uk/debt-and-mental-health/
- คุณค่ากับการตัดสินใจทางการเงิน: Xentum. Why personal values are important in a conversation about money. https://www.xentum.co.uk/why-personal-values-are-important-in-a-conversation-about-money/
- ปรัชญาพุทธศาสนาเรื่องความสุขและการไม่ยึดติด: Original Buddhas. The Buddha’s philosophy of non-attachment and the middle way. https://www.originalbuddhas.com/blog/the-buddhas-philosophy-of-non-attachment-and-the-middle-way และ Shambhala.org. Non-Attachment in Buddhism: Exploring the Buddhist Teachings on Attachment. https://shambhala.org/community/blog/non-attachment-in-buddhism-exploring-the-buddhist-teachings-on-attachment/
- หลักการ ESG ในการเงินส่วนบุคคล: NerdWallet. ESG for Beginners: Environmental, Social and Governance Investing. https://www.nerdwallet.com/article/investing/esg-investing และ ESG The Report. What is Your Personal ESG Score and Why Should You Care? https://esgthereport.com/what-is-your-personal-esg-score-and-why-should-you-care/
- หลักการเงินตามแนวทางพุทธศาสนา: BizNews.com. 7 moral money principles from Buddhism: ‘It’s about mental economy’. https://www.biznews.com/good-hope-project/2020/10/09/money-buddhism