เครดิตสกอริ่งคืออะไร? วิธีตรวจสอบและปรับปรุงเครดิตให้ดีขึ้น

เครดิตสกอริ่งคืออะไร? วิธีตรวจสอบและปรับปรุงเครดิตให้ดีขึ้น

เครดิตสกอริ่ง สำคัญแค่ไหน?

ลองจินตนาการว่าคุณกำลังจะซื้อบ้านในฝัน รถยนต์คันใหม่ หรือขอสินเชื่อเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ แต่เมื่อไปยื่นขอสินเชื่อ ธนาคารกลับปฏิเสธเพราะ “เครดิตสกอริ่งของคุณไม่ดีพอ” ฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วเครดิตสกอริ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อโอกาสทางการเงินของเราในแทบทุกด้าน

เครดิตสกอริ่ง (Credit Scoring) คือการให้คะแนนความน่าเชื่อถือทางการเงินของบุคคลโดยพิจารณาจากพฤติกรรมการใช้สินเชื่อในอดีต คะแนนนี้เป็นเหมือน “พาสปอร์ตทางการเงิน” ที่ช่วยให้สถาบันการเงินตัดสินใจว่าจะปล่อยสินเชื่อให้คุณหรือไม่ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่คุณจะได้รับ

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครดิตสกอริ่ง ตั้งแต่วิธีการตรวจสอบ ปัจจัยที่มีผลต่อคะแนน และแนวทางปรับปรุงเครดิตให้ดีขึ้นเพื่อให้คุณมีโอกาสทางการเงินที่ดียิ่งขึ้น


เครดิตสกอริ่งคืออะไร และทำงานอย่างไร?

เครดิตสกอริ่งคืออะไร?

เครดิตสกอริ่งคือคะแนนที่สะท้อนพฤติกรรมทางการเงินของคุณ โดยสถาบันการเงินใช้เป็นตัวช่วยในการพิจารณาความเสี่ยงของผู้ขอสินเชื่อ คะแนนนี้ถูกคำนวณจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประวัติการชำระหนี้ ยอดหนี้คงค้าง และระยะเวลาที่คุณเคยใช้สินเชื่อ

เครดิตสกอริ่งทำงานอย่างไร?

เมื่อคุณสมัครสินเชื่อ ข้อมูลเครดิตของคุณจะถูกส่งไปยังระบบเครดิตบูโร จากนั้นระบบจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์และคำนวณออกมาเป็นคะแนน โดยทั่วไป คะแนนเครดิตจะอยู่ในช่วง 300 – 850 ซึ่งแบ่งเป็นระดับดังนี้:

  • คะแนน 750 ขึ้นไป: ดีมาก – มีโอกาสได้รับสินเชื่อสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำ
  • คะแนน 650 – 749: ดี – สามารถขอสินเชื่อได้แต่เงื่อนไขอาจสูงขึ้น
  • คะแนน 550 – 649: ปานกลาง – อาจได้รับสินเชื่อ แต่ดอกเบี้ยจะสูงกว่าปกติ
  • คะแนนต่ำกว่า 550: ต่ำ – มีโอกาสถูกปฏิเสธสินเชื่อสูง หรืออาจต้องมีหลักประกัน

ปัจจัยที่มีผลต่อเครดิตสกอริ่ง

การคำนวณเครดิตสกอริ่งไม่ได้เป็นเรื่องลึกลับ แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการเงินของคุณเป็นหลัก ปัจจัยหลักที่มีผลต่อคะแนนเครดิต ได้แก่:

  1. ประวัติการชำระเงิน (35%) – หากคุณชำระหนี้ตรงเวลา คะแนนจะดีขึ้น แต่ถ้าคุณมีประวัติผิดนัดชำระ คะแนนจะลดลง
  2. ยอดหนี้คงค้าง (30%) – การมีหนี้มากเกินไปส่งผลเสียต่อเครดิตสกอริ่งของคุณ ควรรักษาสัดส่วนหนี้ต่อวงเงินให้ต่ำกว่า 30%
  3. ระยะเวลาที่เคยใช้สินเชื่อ (15%) – การมีบัญชีสินเชื่อที่มีประวัติดีนาน ๆ ส่งผลดีต่อเครดิต
  4. ประเภทของสินเชื่อ (10%) – การมีสินเชื่อที่หลากหลาย เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อรถยนต์ แสดงถึงความสามารถในการจัดการเงินที่ดี
  5. การขอสินเชื่อใหม่ (10%) – การสมัครสินเชื่อใหม่หลายรายการในช่วงเวลาสั้น ๆ อาจส่งผลเสียต่อคะแนนเครดิต เพราะบ่งบอกว่าคุณกำลังต้องการเงินเร่งด่วน

วิธีตรวจสอบเครดิตสกอริ่งของคุณ

จะตรวจสอบเครดิตสกอริ่งได้ที่ไหน?

ในประเทศไทย คุณสามารถตรวจสอบเครดิตสกอริ่งของตนเองผ่าน บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร – National Credit Bureau, NCB) โดยสามารถทำได้ที่:

  • ธนาคารที่ร่วมให้บริการ
  • เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเครดิตบูโร
  • จุดบริการเครดิตบูโร เช่น ที่ศูนย์การค้าและสถานที่ที่กำหนด

ขั้นตอนการขอตรวจสอบเครดิตบูโร

  1. เตรียมบัตรประชาชน (หรือพาสปอร์ตสำหรับชาวต่างชาติ)
  2. กรอกแบบฟอร์มขอตรวจสอบเครดิต
  3. เลือกวิธีรับรายงาน เช่น ไปรษณีย์ หรือแบบออนไลน์
  4. ชำระค่าธรรมเนียม (โดยปกติประมาณ 150 – 200 บาท)
  5. รอรับรายงานเครดิตของคุณ

วิธีปรับปรุงเครดิตสกอริ่งให้ดีขึ้น

1. ชำระหนี้ตรงเวลาเสมอ

การจ่ายหนี้ตรงเวลาส่งผลโดยตรงต่อเครดิตสกอริ่ง หากมีปัญหาในการชำระ ควรติดต่อธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ก่อนถึงกำหนด

2. ลดอัตราหนี้ต่อวงเงิน

หากคุณใช้บัตรเครดิตเต็มวงเงินเป็นประจำ อาจทำให้คะแนนเครดิตลดลง ควรใช้ไม่เกิน 30% ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ

3. หลีกเลี่ยงการสมัครสินเชื่อบ่อยเกินไป

การสมัครสินเชื่อหลายครั้งภายในระยะเวลาสั้น ๆ อาจทำให้สถาบันการเงินมองว่าคุณมีปัญหาทางการเงิน และส่งผลเสียต่อเครดิตสกอริ่ง

4. ตรวจสอบรายงานเครดิตเป็นประจำ

การตรวจสอบเครดิตช่วยให้คุณสามารถตรวจพบข้อผิดพลาด และดำเนินการแก้ไขได้ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อคะแนนเครดิตของคุณ

5. ใช้สินเชื่อที่มีอยู่ให้อย่างเหมาะสม

การปิดบัญชีสินเชื่อที่มีประวัติดีอาจส่งผลเสียต่อคะแนนเครดิต ควรรักษาบัญชีเก่าไว้หากไม่มีความจำเป็นต้องปิด


เครดิตสกอริ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในโลกการเงิน ไม่ว่าคุณจะต้องการกู้เงิน ซื้อบ้าน หรือขยายธุรกิจ คะแนนเครดิตที่ดีจะช่วยให้คุณได้รับข้อเสนอสินเชื่อที่ดีกว่า อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า และเพิ่มโอกาสทางการเงินของคุณ

หากตอนนี้คุณมีคะแนนเครดิตที่ไม่ดี อย่ากังวล! การปรับพฤติกรรมทางการเงิน เช่น การชำระหนี้ตรงเวลา และการจัดการหนี้อย่างรอบคอบ สามารถช่วยให้เครดิตสกอริ่งของคุณดีขึ้นได้ในระยะยาว และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้คุณในอนาคต

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

Leave a Reply