เงินซื้อความสุขได้จริงหรือ? ไขคำตอบผ่านปรัชญาและการใช้เงินอย่างยั่งยืน

เงินซื้อความสุขได้จริงหรือ? ไขคำตอบผ่านปรัชญาและการใช้เงินอย่างยั่งยืน
เงินซื้อความสุขได้จริงหรือ? ไขคำตอบผ่านปรัชญาและการใช้เงินอย่างยั่งยืน

โดย วารีภูย์


เงินกับความสุข – สิ่งที่คนถกเถียงกันมานาน

ครั้งหนึ่ง ฉันเคยนั่งสนทนากับคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมาก เขามีรายได้สูง บ้านหรู รถหรู แต่ในการสนทนากลับมีคำถามหนึ่งที่น่าสนใจ ว่า…

“คุณรู้มั้ยว่า แม้ฉันฉันจะร่ำรวย มีเงินทองมาก แต่ทำไมยังรู้สึกว่าชีวิตมันขาดอะไรบางอย่างอยู่ดี? ทั้งที่ฉันมีทุกอย่างที่อยากได้แล้ว”

คำถามนี้กระตุ้นความคิดฉันอย่างมาก เงินซื้อความสุขได้จริงหรือ? หรือแท้จริงแล้ว ความสุขเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้เลย? เรามาหาคำตอบไปด้วยกันผ่านแนวคิดปรัชญา จิตวิทยา และการใช้เงินอย่างยั่งยืน (ESG) ซึ่งอาจช่วยให้เราค้นพบหนทางที่นำไปสู่ชีวิตที่เต็มไปด้วยความหมาย


1. มุมมองของปราชญ์และนักคิดยุคโบราณ

เงินคือมายา หรือเครื่องมือที่มีค่า?

ในทางศาสนาและปรัชญาโบราณ เรามักถูกสอนว่า เงินเป็นเพียงมายา ไม่ใช่สิ่งที่นำพาความสุขแท้จริงมาให้

  • พระพุทธเจ้า กล่าวไว้ว่า “ความสุขที่แท้จริงเกิดจากการปล่อยวาง ไม่ใช่การครอบครอง”
    • คำสอนทางพุทธศาสนามองว่า ความสุขที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากวัตถุหรือทรัพย์สิน แต่เกิดจากจิตใจที่สงบ หากเรายึดติดกับเงินและสิ่งของมากเกินไป เราจะเกิดความทุกข์ที่มาจากความกลัวการสูญเสีย
    • นักปฏิบัติทางธรรมกล่าวว่า คนที่สามารถปล่อยวางและพอใจในสิ่งที่มีอยู่ จะพบความสุขที่แท้จริงมากกว่าคนที่มีทรัพย์สินมากมายแต่เต็มไปด้วยความกังวล
  • เซเนกา นักปรัชญาสโตอิก เชื่อว่า “คนที่พอใจกับสิ่งที่ตนมี คือคนที่มั่งคั่งที่สุด”
    • ปรัชญาสโตอิก (Stoicism) สอนว่า ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก แต่ขึ้นอยู่กับการควบคุมอารมณ์และความคิดของเราเอง
    • การเรียนรู้ที่จะพอใจในสิ่งที่มีอยู่ คือสิ่งที่ทำให้เรามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ โดยไม่ต้องวิ่งไล่ตามทรัพย์สินหรือความสำเร็จอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
  • ขงจื๊อ กล่าวถึงการใช้ชีวิตที่มีคุณธรรม มากกว่าการไขว่คว้าความมั่งคั่ง
    • ขงจื๊อเน้นเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคม ว่าความสุขที่แท้จริงเกิดจากการทำให้สังคมรอบตัวเราเป็นสถานที่ที่ดีขึ้น
    • คนที่ร่ำรวยแต่ไม่มีความสัมพันธ์ที่ดี ย่อมไม่สามารถพบความสุขที่ยั่งยืนได้

แม้ว่าปราชญ์ในอดีตจะมีมุมมองเช่นนี้ แต่ในโลกยุคใหม่ เงินกลายเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิต งานวิจัยด้านจิตวิทยาสมัยใหม่วิเคราะห์เรื่องนี้ว่าอย่างไร?


2. มุมมองของจิตวิทยาและเศรษฐศาสตร์

เงินสามารถซื้อความสุขได้ แต่มีขีดจำกัด

งานวิจัยของ Daniel Kahneman & Angus Deaton นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล พบว่า “เงินช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้นจนถึงจุดหนึ่ง (~75,000 ดอลลาร์ต่อปี) หลังจากนั้น เงินที่เพิ่มขึ้นไม่ส่งผลต่อระดับความสุขของเราอีกต่อไป” (PNAS, 2010)

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

  • เมื่อความต้องการพื้นฐานได้รับการเติมเต็ม (อาหาร, ที่อยู่อาศัย, ความมั่นคง) เงินเพิ่มเติมไม่ได้ช่วยให้เรามีความสุขขึ้นมากนัก
  • “Hedonic Adaptation” หรือ ปรากฏการณ์ความเคยชินกับความสุข ทำให้เราต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ
  • ความสุขที่เกิดจากวัตถุมีอายุสั้น แต่ความสุขที่เกิดจากประสบการณ์และความสัมพันธ์นั้นยั่งยืน

แต่เงินยังมีศักยภาพในการเพิ่มความสุข ถ้าเราใช้มันอย่างถูกวิธี


3. วิธีใช้เงินให้เกิดความสุขที่แท้จริง

1) ลงทุนในประสบการณ์ มากกว่าวัตถุ

งานวิจัยของ Thomas Gilovich จากมหาวิทยาลัย Cornell พบว่า “การใช้เงินไปกับประสบการณ์ (การเดินทาง กิจกรรมที่ทำให้เราเติบโต) ทำให้คนมีความสุขมากกว่าการซื้อสิ่งของ” (Psychological Science, 2014)

2) ใช้เงินเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

Elizabeth Dunn พบว่า “คนที่ใช้เงินเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น มีระดับความสุขสูงกว่าคนที่ใช้เงินเพื่อตัวเอง” (Science, 2008)

3) ใช้เงินเพื่อซื้อเวลา

การใช้เงินเพื่อจ้างงานที่ช่วยลดภาระ เช่น แม่บ้าน บริการส่งของ ทำให้เรามีเวลาไปทำสิ่งที่มีความหมายกับชีวิตมากขึ้น (Harvard Business Review, 2017)


4. การใช้เงินอย่างยั่งยืน (ESG) และความสุข

ความสุขไม่ได้มาจากการใช้เงินเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังมาจากการใช้เงินที่ส่งผลดีต่อโลก

  • เลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (ลดขยะ ใช้ของรีไซเคิล)
  • สนับสนุนธุรกิจที่มีจริยธรรม (แฟร์เทรด, บริษัทที่ให้ความสำคัญกับ ESG)
  • ลงทุนใน Green Finance (การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนพร้อมช่วยสังคมและสิ่งแวดล้อม)

บทสรุป: เงินซื้อความสุขได้หรือไม่?

คำตอบคือ เงินช่วยเพิ่มความสุขได้ แต่ต้องใช้มันอย่างมีสติ

ดังนั้น คำถามที่ถูกต้องอาจไม่ใช่ “เงินซื้อความสุขได้ไหม?” แต่เป็น “เราจะใช้เงินอย่างไรให้มันช่วยเติมเต็มชีวิตของเรา?”


แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  • Daniel Kahneman & Angus Deaton, High income improves evaluation of life but not emotional well-being (PNAS, 2010)
  • Elizabeth Dunn, Spending Money on Others Promotes Happiness (Science, 2008)
  • Thomas Gilovich, A Wonderful Life: Experiential Consumption and the Pursuit of Happiness (Psychological Science, 2014)
  • Ashley Whillans, Time Smart: How to Reclaim Your Time and Live a Happier Life (Harvard Business Review, 2017)

Leave a Reply