จะเกิดอะไรขึ้นหาก ภาวะโลกร้อน ในตอนนี้ร้อนขึ้นไปอีก ลองคิดดูเมื่อเทียบกับเรา ว่าคนเรามีอุณหภูมิปกติอยู่ที่ไม่เกิน 37 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิของเราสูงกว่านี้นั่นหมายความว่าเรา “ป่วย” ซึ่งโลกเราก็มีอุณภูมิปกติของโลกเช่นกันหากอุณหภูมิสูงขึ้นโลกเราก็ป่วยเช่นกัน
นานมาแล้วไม่มีใครพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก รวมถึงนักวิชาการมากมาย พูดในทำนองเดียวกันเกี่ยวกับ วิกฤตโลกร้อน ว่าหากเราไม่ทำอะไรเลยไม่ช่วยกันอีกไม่นานเกินไปเราโลกของเราคงไม่เหมาะกับสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน หากอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 3 องศาเซลเซียล นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเราจะไม่สามารถแก้ไขหรือหยุดโลกร้อนได้อีก ขั้วโลกเหนือในหน้าร้อนและยอดเขาแอลป์จะไม่มีน้ำแข็ง พายุที่แรงขนาดร้อยปีมีครั้งจะเกิดขึ้นบ่อยเหมือนเป็นเรื่องปกติ วิกฤตคลื่นความร้อนที่คร่าชีวิตคนจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้น พืชจะเก็บออกซิเจน แล้วปล่อยคาร์บอนไดอ็อกไซด์ออกมาแทน
ลองนึกภาพดูว่า แค่หน้าร้อนที่เราเจอในเดือนเมษายนที่ผ่านมา หากเราไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ หรือต้องเดินตากแดดในเวลาบ่ายๆ เรายังรู้สึกทรมานสุด แล้วหากต้องเจอกับสภาพนั้นตลอดเวลาแล้วเราจะอยู่กันยังไง แล้วหากต้องปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศนั้นอย่างแรกคงได้มีเครื่องปรับอากาศ แล้วลองนึงถึงค่าไฟบ้านเราซิครับ มหาโหดขนาดนี้ แล้วหากต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลาค่าไฟจะมหาโหดขนาดไหนเพราะต้นทุนพลังงานโดยเฉพาะต้นทุนด้านค่าไฟฟ้าเป็นต้นทุนหลักของหลายๆ คนนะครับ
“เปลี่ยน” เพื่อโลก ก่อนที่ต้องปรับตัวเพื่ออยู่กับโลกที่ร้อนขั้น จนทำอะไรไม่ได้
หลายประเทศ หลายภาคส่วนกำลังมีการเปลี่ยนการดำเนินการหลายๆ อย่างที่ส่งผลกระทบต่อการสร้างก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุหลักของ ภาวะโลกร้อน เช่น
- การสร้างพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนแทนการใช้พลังงานที่มาจากฟอสซิล เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม
- ใช้พลังงานสะอาดแทนพลังงานฟอสซิล อย่างที่เห็นกัน เช่น หลายบ้านเริ่มใช้โซล่าเซลในการสร้างพลังงานไฟฟ้าควบคู่ไปกับการใช้ไฟจากการไฟฟ้า หรือการใช้รถไฟฟ้า EV แทนรถที่ใช้น้ำมัน
- การรณรงค์เรื่องการแยกขยะ การจัดการขยะประเภทต่างๆ อย่างถูกวิธี ที่เราสามารถช่วยกันแยกขยะก่อนส่งไปทิ้งเพื่อให้มีการจัดการง่ายขึ้นในขั้นตอนต่อไป แม้ระบบการจัดการของบ้านเรายังไม่พร้อมก็ตาม
การจัดการขยะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ ภาวะโลกร้อน
มีหลายองค์กรที่หันมาให้ความสำคัญในเรื่องการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ซึ่งองค์กรหนึ่งเปิดตัวโครงการและมีกระบวนการจัดการได้อย่างน่าสนใจ นั่นคือ HomePro ที่มีการดำเนินการกับขยะที่เกิดจากการดำเนินกิจการ โดยการรับแลก Trade In เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่อาจจะตกรุ่นไปแล้วหรือเสียแล้วให้ลูกค้าสามารถนำมาแลกสินค้าตัวใหม่กับทาง HomePro ได้
เป็นข้อเสนอที่ Win – Win
-
ในฐานะลูกค้า
ได้รับส่วนลดในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ และเครื่องใหม่จากทาง HomePro ส่วนจะได้รับส่วนลดเท่าไร หรือโครงการดำเนินการถึงเมื่อไร ติดตามได้จาก HomePro โดยตรงครับ
ได้ทิ้งหรือจัดการขยะ Electronic ที่มีส่วนประกอบที่เป็นแร่ธาตุอันตรายจำนวนมากอย่างปลอดภัย
-
ในฐานะผู้ขาย
ถือเป็นการจัดโปรโมชั่นจูงใจให้ลูกค้ามาซื้อของได้เพิ่มขึ้น
เมื่อเข้ากระบวนการจัดการจะได้วัตถุดิบบางส่วนที่นำไปทำสินค้าใหม่กลับมาจำหน่ายอีกครั้ง
-
สิ่งแวดล้อมล่ะได้อะไร
เชื่อมั่นได้ว่า HomePro จะนำขยะ Electronic หรือ E-Waste ไปจัดการด้วยกระบวนการที่ถูกต้องและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ลดการจัดการขยะในวิธีการที่ไม่ถูกต้องที่เป็นวิธีการเดิมๆ ที่ทำอยู่ในปัจจุบัน คือการฝังกลบ แล้วก็จะมีขยะบางส่วน สารเคมีจากขยะอันตรายหลุดไปปนเปื้อนในธรรมชาติที่เป็นหนึ่งในต้นเหตุของโลกร้อนในตอนนี้ ซึ่งการจัดการขยะอันตรายเหล่านี้อย่างถูกต้องจะเป็นการลดต้นเหตุของปัญหาธรรมชาติลงได้
แม้จะเป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ เมื่อเทียบกับปัญหาเท่าที่เข้าไปศึกษาข้อมูลพบว่าเป็นโครงการที่ดีมากๆ โครงการหนึ่งเลยครับหวังว่าบริษัทอื่นๆ จะมีการปรับตัวและเปิดโครงการดีๆ เพื่อจัดการสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเพื่ออนาคตของทุกคนครับ
ศึกษาข้อมูลโครงการเพิ่มเติมได้ที่ https://www.homepro.co.th/sales/circular-product
เรื่องอื่นๆ การลดน้ำหนักของเราช่วยลดโลกร้อน ได้ไง